วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วิธีสร้าง Windows 7 Theme

Windows 7 Theme คืออะไร

ธีม (Theme) หมายถึง ส่วนประกอบที่ใช้สำหรับตกแต่ง Windows ทำให้ Windows มีความสวยงาม น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว Windows ในทุกๆ รุ่น จะมี Theme มาให้บางส่วน และสำหรับ Windows 7 เอง ก็มีให้เช่นกัน รวมทั้งยังสามารถ download เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของ Windows ด้วยเช่นกัน? หรืออยากได้ theme 2010 World Cup สวยๆ แบบอินเทรนด์ ก็ได้เช่นกัน เพียงคลิกลิงค์นี้ ธีมบอลโลก 2010 World Cup สำหรับ Windows 7


ธีมประกอบด้วยอะไรบ้าง ?

  1. ภาพฉากหลัง หรือ Wallpaper
  2. สีของหน้าต่าง Window Color
  3. เสียงในการแสดงการณ์หนึ่ง หรือ Sound
  4. ภาพพักหน้าจอ หรือ Screen Saver
สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7 ทุกคน คุณทราบหรือไม่ว่า เราสามารถสร้าง Theme เองได้ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมเลย รวมทั้ง Theme ที่สร้างขึ้นนั้น สามารถแบ่งปันไปให้เพี่อนๆ ของคุณใช้งานได้อีกด้วย ถ้าสนใจก็ลองลงมือสร้าง Theme ของเรากันดีกว่า

วิธีสร้าง Windows 7 Theme
 1. คลิกขวาที่หน้า Desktop
 2. คลิกเลือกคำสั่ง Personalize
 3. คลิกเลือก Theme ที่ต้องการก่อน จากนั้นปรับเปลี่ยนทีละขั้นตอนดังนี้
 4. ขั้นตอนที่ 1 คลิกเลือก Desktop Background จากนั้นเลือกรูปภาพที่ต้องการเป็น Background ?หรือคลิกที่ปุ่ม Browse เพื่อรูปภาพส่วนตัวของเราก็ได้ด้วย เลือกเสร็จแล้ว ให้คลิกปุ่ม Save changes


5. ขั้นตอนที่ 2 แก้ไขในส่วน Windows Color ให้คลิกเลือกสีที่ต้องการ? เลือกเสร็จแล้ว ให้คลิกปุ่ม Save changes


6. ขั้นตอนที่ 3 ปรับแต่งในส่วนของเสียง หรือ Sound ในช่อง Sound Scheme เลือกเสร็จแล้ว ให้คลิกปุ่ม Save changes อีกเช่นเดิม

 7. ขั้นตอนที่ 4 ปรับแต่งในส่วนของ Screen Saver เลือกได้แล้ว ให้คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยัน
 8. จากนั้น ให้ดู Theme ที่ชื่อว่า ?Unsaved Theme? คลิกขวาเลือกคำสั่ง ?Save Theme for Sharing?


 9. ตั้งชื่อไฟล์ Themeที่ต้องการ
 10. จะได้ไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ Documents

แค่นี้คุณก็สามารถ copy ไฟล์นี้ ไปแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆ ได้แล้วครับ


ที่มา : http://www.it-guides.com/index.php/tips-a-techniques/windows-tips/1344-windows-7-theme-creator

10 โปรแกรม Gadgets ที่น่าใช้งาน

ทำความรู้จัก Gadgets

สำหรับผู้ใช้งาน Windows ทุกท่าน โดยเฉพาะกับผู้ใช้งาน Windows Vista, Windows 7 แล้ว คงรู้จัก Windows Gadgets ดี เพราะเป็นโปรแกรมทีใช้สำหรับการแสดงโปรแกรมย่อยๆ ทางด้านขวามือ เช่น แสดง นาฬิกา ปฏิทิน เครื่องคิดเลข แสดง ภาพ Slide Show และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้น สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำ?10 โปรแกรม Gadgets ที่น่าใช้งาน


10 Gadgets ที่ควรมีติดเครื่องคอมฯ


  1. คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องค้นหาผ่านทาง Search Engine อย่างเช่น Google
  2. ถ้ายังไม่ถูกใจก็ต้องนี่เลย Bing จาก Microsoft ที่เรารู้จักกันดี
  3. Microsoft Outlook แสดงสถานะข้อมูลของเมล
  4. โปรแกรมแสดงภูมิอาการ ติดอันดับต้นๆ ของโปรแกรม Gadget
  5. Facebook สังคมออนไลน์ที่มาแรงสุดๆ
  6. Twitter อีกหนึ่งสังคมออน
    บันทึกเป็นฉบับร่าง
    ไลน์ที่มาแรงไม่แพ้กัน
  7. CPU Usage แสดงสถานะการใช้งานคอมฯ ของคุณ
  8. Network Meter แสดงรายละเอียดของระบบเครือข่ายที่ใช้งานอยู่
  9. Screen Capture โปรแกรมช่วยจับหน้าจอภาพ จิ๋วแต่แจ๋วจริง
  10. Remove Drive Safety โปรแกรมที่ช่วยลดปัญหาการลด disable Flash Drive แค่คลิกก็ยกเลิกแล้ว
โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น สามารถหา download ได้ฟรีที่ Windows Gadgets?

ที่มา : http://www.it-guides.com/index.php/tips-a-techniques/windows-tips/1239-windows-gadgets

 

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วิธีตรวจ ม้าโทรจัน ว่า เข้ามาในเครื่องคุณหรือเปล่า

  1. ให้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องท่านโดยการกดปุ่มstart-->program-->MS-Dos Prompt
  2. แล้วพิมพ์ netstat -an
  3. ถ้าท่านพบคำว่า•TCP 0.0.0.0: 12345หรือ12346แสดงว่าเครื่องของท่านโดนม้าโทรจันแล้ ว (2portนี้คือNetbus )
  4. หรือถ้าพบคำว่าUDP 0.0.0.0 :313337แสดงว่าท่านโดนม้าโทรจันโปรแกรมBOแอบเข้ามาใน เครื่องท่านแล้วนะจ๊ะ
 ที่มา : http://bbs.asiasoft.co.th/showthread.php?t=207118&p=3175762#post3175762

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เพิ่มความเร็วเน็ต โดยใช้ DNS ของ Comodo


      จากบทความเก่าทีเคยเอามาเผยแพร่การเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตด้วย Google Public DNS วันนี้ขอนำเสนอ DNS ของอีกค่ายหนึ่งมาเป็นตัวเลือกให้กับผู้ใช้งานอย่างเราๆ  นั้นคือ DNS ของ Comodo หลายคนคงพอได้ยินชื่อ Comodo กันมาบ้าง   Comodo เป็นชื่อของ Firewall ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถ Download ใช้ได้ฟรีๆ ที่ >> http://personalfirewall.comodo.com/

Comodo DNS
เราสามารถนำไปใส่ในช่อง DNS ของเครื่องเราได้ทันที ขั้นตอนทำก็เหมือน
Google Public DNS แต่ Comodo DNSเปลี่ยนตัวเลขเป็น

156.154.70.22

156.154.71.22

ดูเพิ่มเติมที่บทความ  Google Public DNS
http://tipcomtrick.blogspot.com/2011/09/tot-google-public-dns.html#links

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วิธีการ On/Off Windows Firewall ของ Windows 7


1. คลิกที่ Start แล้วไปเลือกและคลิกที่ Control panel
 
 
 
2. คลิกหัวข้อ  System and Security
 
 
3. ที่หัวข้อ Windows Firewall  ให้คลิกที่หัวข้อย่อย  Check firewall status
 
 
4. หน้าต่างจะแสดงสถานะ ในรูปแบบของแถบสี ดังตัวอย่างเป็น สีแดง แสดงว่า ปิด Windows Firewall อยู่
 
 
5. ที่คำสั่งทางซ้ายมือของหน้าต่าง ให้คลิกที่  Turn Windows Firewall on or off
 
 
6. คลิกที่ Turn off ทั้งสองหัวข้อดังตัวอย่าง
 
 
7. เมื่อต้องการเปิดการใช้งาน Windows Firewall ให้กลับมาคลิกที่ Turn on ทั้งสองหัวข้อนี้ อีกครั้ง
 
ที่มา : Truesuppor


วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

5 วิธีง่ายๆที่จะช่วยลดและประหยัดพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ใน Windows 7

1.ใช้ เครื่องมือ Disk Cleanup
Disk Cleanup  เป็นเครื่องมือที่ติดมากับ Windows 7 ที่จะช่วยลบไฟล์ข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์หรือไฟล์ขยะ(temporary files) เช่น ไฟล์ที่เกิดจากการใช้งาน Internet Explorer หรือไฟล์ที่ค้างอยู่ในถังขยะ
วิธีใช้งาน Disk Cleanup
- เข้า Windows Explorer หรือ (my)Computer คลิกขวาในไดรว์ที่ต้องการใช้ Disk Cleanup แล้วเลือก Properties
- คลิกที่ Disk Cleanup จะเจอกับเครื่องมือสำหรับเลือกลบไฟล์ขยะต่างๆ เลือกลบไฟล์ตามหัวข้อของโปรแกรม



2.ถอนโปรแกรมที่ไม่ค่อยได้ ใช้งานออกไปบ้าง
เราสามารถถอนโปรแกรมต่างๆที่ติดตั้งเข้าไปใน Windows 7 โดยใช้เครื่องมือ Uninstall a program โดยเข้าไปที่ Control Panel และคลิกที่ Uninstall a program.



 3.ปิดการ ทำงานโปรแกรมเสริมที่มากับ Windows ที่ไม่ค่อยได้ใช้
ใน Windows 7 จะมีโปรแกรมเสริมต่างๆมากมายที่แถมมาให้พร้อมกับตัว Windows โดยการ เข้าไปที่ Control Panel. คลิกที่ Programs. คลิก Enable or disable Windows features เอาเครื่องหมายถูกตรงหน้าโปรแกรมเสริมที่ไม่ต้องการใช้งานออก เพื่อปิดการทำงานของโปรแกรมนั้นๆ จะสามารถช่วยประหยัดพื้นที่ได้นิดหน่อย



 4.ปิด ระบบ System Restore
System Restore คือตัวที่จะช่วยคืนค่าการทำงานต่างๆของวินโดว์ ให้กลับไปยังวันที่ต้องการได้ โดนคุณสมบัตินี้จะใช้พื้นที่ในการสำรองข้อมูลมากพอสมควร เราสามารถปิดการทำงานในส่วนนี้ได้ โดย
- คลิกขวาที่ My Computer และเลือก Properties
- คลิกที่แท็บ System Protection
- เลือกไดรว์ที่ต้องการปิด System Restore แล้วกด Configure
- คลิกที่ Turn off system protection.
- กด OK  เป็นอันเสร็จ



 5.ปิด การทำงาน Hibernate
Hibernate เป็นคุณสมบัติที่ใช้ในการปิดเครื่องแบบด่วน คือกดปุ๊บแล้วเครื่องจะปิดทันที โดยการโอนถ่ายข้อมูลจาก RAM ขณะนั้นมาใส่ใน HDD เวลาเราเปิดเครื่องครั้งต่อไป วินโดว์ก็จะกลับมาทำงานก่อนที่จะกด Hibernate
วิธีปิดการทำงาน Hibernate
- ไปที่ run พิมพ์ cmd แล้ว กด ok
- พิมพ์คำสั่ง powercfg /hibernate off แล้วกด enter
เพียงง่ายๆเท่านีเราก็สามารถประเนื้อที่ ฮาร์ดดิสก์ ได้แล้ว


ที่มา : www.blogsolute.com
 

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

ใช้ เครื่องคิดเลข ท่องอินเตอร์เน็ต


ทริคเล็กๆในการใช้ เครื่องคิดเลข ท่องอินเตอร์เน็ตแทนบราวเซอร์ขาประจำที่เราใช้งานอยู ่ เหมาะสำหรับกรณีที่บราวเซอร์นั้นๆเกิดอาการเสีย หรือใช้งานไม่ได้แบบปัจจุบันทันด่วน  ไม่เหมาะสำหรับการแอบเล่นอินเตอร์เน็ตที่มีการบล็อกไ ม่ให้ใช้ตามสำนักงาน

หมายเหตุ: การใช้งานหรือการแสดงผลไม่เทียบเท่ากับการใช้บราวเซอ ร์
และอาจใช้ไม่ได้ในกรณีที่มีการบล็อกโดยผู้ดูแลระบบ (IT Administrators..)



1. เปิด เครื่องคิดเลข
(Start > All Programs > Accessories > Calculator)



2. คลิกที่ Help > Help Topics


3. คลิกขวาที่ title bar ของเครื่องคิดเลข > Jump To URL



4. ใส่ URL ที่ต้องการลงในช่อง Jump to this URL (URL จะต้องมี "http://" นำหน้าเสมอ)



5. Done!!!
การไห้คือสิ่งที่เรามีเหมือนกัน จัสยูสเซอร์

วิธีการปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์อย่างไวไม่เกิน 5 วินาที

  • ปกติ เวลาที่เราจะปิดเครื่องและจบการทำงานออกจากวินโดวส์ เราจะไปที่ปุ่ม Start > Turn off computer… > Turn off หรือไม่ บางคนก็อาจจะกดปุ่ม Power ตรงเคสหรือซีพียู (( บางคนจะเข้าใจอย่างนี้ )) เพื่อปิดเครื่อง แต่บางคนก็ถอดปลั๊กเลยก็มี (( ซึ่งวิธี shutdown เครื่องแบบหลังนี้ ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยจริงๆ ไม่แนะนำให้ทำแบบนี้นะ เพราะจะเป็นอันตรายต่อฮาร์ดแวร์ในเครื่องโดยเฉพาะฮาร ์ดิสก์ไดรว์ ได้นะซึ่งโดนมาแล้ว การ์ดจอไปกะสายลม ))และจากวิธีการปิดเครื่อง shutdown เครื่องแบบตามวิธีการไปที่ ปุ่ม Start > Turn off computer… > Turn off นั้น วันนี้จะมาแนะนำวิธีการปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่เกิน 5 วินาที มาฝากกัน




วิธีการปิดเครื่อง ชัตดาวน์วินโดวส์อย่างไวไม่เกิน 5 วินาที มีขั้นตอนง่ายๆดังนี้


* ให้กดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager หรือจะไปคลิกขวาที่ Task Bar (บาร์ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอนั่นเอง) > เลือกเมนู Task Manager ก็ได้เช่นกัน 

* จากนั้นไปคลิ กที่เมนู Shutdown > เลื่อน hilight มาที่ Turn Off > จากนั้นให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ และคลิกที่เมนู Turn Off ดังรูป


เพียงเท่านี้คุณก็จะปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์ได้อย่างไวและรวดเร็วทันใจ ไม่เกิน 5 วินาที แล้ว ลองนำทริกนี้ไปใช้ดูนะ 
วิธีนี้ไม่เป็นอันตรายนะแต่ว่าก็ไม่ค่อยใช้เหมือนกัน จะใช้ก็ต่อเมื่อรีบเร่งปิดเครื่องเท่านั้น


http://bbs.asiasoft.co.th/showthread.php?t=207118&p=3761451#post3761451

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

วิธีแปลงไฟล์ PDF เป็น Microsoft Word

วิธีง่ายๆ ในการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word



PDF เป็นรูปแบบไฟล์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัย และมีขนาดที่เล็กลง เมื่อมีการแปลงไฟล์จาก Microsoft Word, Excel PowerPoint หรือโปรแกรมใดๆ ก็ตาม แต่อย่าไงก็ตาม บางครั้งเราก็ยังมีต้องการที่จะแปลงไฟล์กลับมาเป็นเอกสารดังเดิม เพื่อทำการแก้ไข ซึ่งโดยปตกิจะไม่สามารถแปลงมาเหมือนต้นฉบับ แต่ถ้าต้องการใกล้เคียงก็เป็นไปได้ นั่นคือการแปลงหรือดึงเฉพาะข้อมูลที่เป็นตัวอักษรกลับออกมา

Free PDF to Word Converter



  • สนใจ download Free PDF to Word Converter ขนาดไฟล์ 3.82 MB
  • รองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 7, Windows Vista and Windows XP

วิธีการติดตั้งและใช้งาน Free PDF to Word Converter
  1. download และทำการติดตั้งจากลิงค์ข้างต้น
  2. ดับเบิลคลิกไฟล์โปรแกรม Free PDF to Word Converter
  3. คลิกและลากไฟล์ PDF ที่ต้องการแปลง หรือกดปุ่ม Select File
  4. ในช่อง Output file ให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการจัดเก็บ (หลังแปลงไฟล์)
  5. คลิกปุ่ม Convert เพื่อแปลงทันที
แค่นี้ เราก็สามารถแปลงไฟล์กลับมาเป็น Microsoft Word ได้แล้ว
เท่าที่ทดสอบ ยังไม่รองรับภาษาไทย น่ะครับ

 

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

แก้เน็ต TOT ห่วยให้ Google Public DNS ช่วยได้

ใช้เน็ตทีโอที (TOT) แล้วเข้าเว็บไม่ได้ มาทางนี้ครับ ใส่ DNS ของ Google ไปเลย ช่วยได้

วัน ที่ 3 ธ.ค. google ประกาศเปิดตัว Google Public DNS ที่ทางทีมงาน google เชื่อว่าจะเพิ่มความเร็วในการท่องเว็บให้กับผู้ใช้เน็ต แถมด้วยความปลอดภัย และ ความแม่นยำที่มากกว่าอีกต่างหาก!!

DNS คืออะไร?
ย่อมาจาก Domain Name Server เป็นสิ่งที่ใช้อ้างหมายเลขเครื่อง หรือ IP Address ซึ่งหากเราจะเชื่อมไปยังเว็บใดๆ HOST ของเว็บก็จะสอบถามเลข IP ของเรา กับ DNS server แล้ว DNS server ก็จะค้นหาหมายเลขของเรา แล้วก็แจ้งให้ Host ทราบ

ทีม google โฆษณาไว้เยอะเหมือนกันสำหรับของเล่นใหม่ชิ้นนี้ และก็น่าสนใจมาก เพราะการเปลี่ยนค่า DNS ผู้ใช้เน็ตทั่วไปสามารถทำได้ง่ายๆ และหากไม่ดีก็สามารถเปลี่ยนกับได้ด้วย ทาง google เลยขอให้ชาวโลกทั้งหลายมาทดลองใช้Google Public DNS นี้ ดูซิว่าจะเร็วขึ้นจริงมั้ย!!!




วิธีการเปลี่ยนค่า DNS เป็น google public DNS

1. ไปที่ control panel > Network Connection หรือ Network and Sharing Center หรือ Manage network connections (แล้วแต่ OS หรือ window ที่เราใช้)



สำหรับWindows XP



2. เลือกเนตที่เราใช้อยู่ จะมี 2 แบบคือ Local Area Connection และ Wireless Network Connection คลิ้กขวา แล้วเลือก Properties

3. เข้าไปเลือก Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4) หรือ Internet Protocol(TCP/IP) แล้วกดที่ปุ่ม properties

4.ดู ช่องด้านล่างเลือก Use the following DNS server addresses ซึ่งจะมี Preferred DNS server และ Alternate DNS server ใส่ IP ของ google DNS เข้าไปเลย



กด OK



ก่อนปรับแต่ง

หลังปรัปแต่งแล้ว

คีย์ลัดของ Firefox ที่ควรรู้

    
Firefox หรือที่บางท่านเรียกว่า จิ้งจอกไฟ ,จิ้งจอกเพลิง  นั้นเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่เป็นที่นิยมใช้กันในสังคมออนไลน์เป็นอันดับสอง ของโลก และยังได้รับความนิยมมากขึ้นตลอด ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่หันมาใช้ Firefox เพราะการทำงานที่รวดเร็วใน แสดงหน้าเว็บต่างๆ ได้เร็ว แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้ทั้งหลายลืมไปไม่ได้นึกถึงเลยและไม่ค่อยนิยมใช้ นั้นคือการใช้คีย์ลัดที่มีอยู่ในตัว Firefox  เพราะส่วนใหญ่ มักจะนิยมการคลิกเมาส์เสียมากกว่า การใช้คีย์ลัดของ Firefox การกดคีย์ต่างๆ ที่ คีย์บอร์ดนั้น สามารถช่วยให้เราใช้งาน กับเว็บเบราว์เซอร์ตัวนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น ในด้านความเร็วในการสั่งการโปรแกรม


 มาดูซิว่าคีย์ลัดใน Firefox ที่เราไม่ค่อยรู้จักนั้นมีอะไรบ้าง

  •       Spacebar – เพื่อเลื่อนหน้าเว็บลง 1 หน้าทุกครั้งที่กด
  •       Shift + Spacebar – เลื่อนหน้าเว็บขึ้น 1 หน้าทุกครั้งที่กด   
  •       ลูกศรชี้ลง – เลื่อนหน้าเว็บลง
  •       ลูกศรชี้ขึ้น – เลื่อนหน้าเว็บขึ้น
  •       Page Up –  เลื่อนหน้าเว็บขึ้น 1 หน้าทุกครั้งที่กด
  •       Page Down – เลื่อนหน้าเว็บลง 1 หน้าทุกครั้งที่กด
  •       End – ไปยังตำแหน่งสุดท้ายของหน้าเว็บ   
  •       Home – ไปยังตำแหน่งบนสุดของหน้าเว็บ   
  •       Alt + Home – ไปที่หน้า Home Page ที่ตั้งค่าไว้   
  •       F5 – รีโหลดหน้าเว็บปัจจุบันที่เปิดอยู่  
  •       F3 – เปิด Find toolbar   
  •       Ctrl + F – เปิด Find toolbar
  •       Ctrl + R – รีโหลดหน้าเว็บปัจจุบันที่เปิดอยู่
  •       Ctrl + L – ไปที่ Address bar
  •       Ctrl + K – ไปที่ Search Box ของโปรแกรม
  •       Ctrl + N – เปิดหน้าต่างใหม่
  •       Ctrl + O – เปิด ไฟล์
  •       Ctrl + = (เครื่องเท่ากับ) – ซูมขนาดตัวอักษรในหน้าเว็บให้ใหญ่ขึ้น (Zoom in)
  •       Ctrl + – (เครื่องหมายลบ) – ลดขนาดตัวอักษรในหน้าเว็บให้เล็กลง (Zoom out)
  •       Ctrl + 0 (เลขศูนย์) – คืนค่าขนาดตัวอักษรเป็นค่าดีฟอลต์
  •       Ctrl + P – พิมพ์หน้าเว็บปัจจุบันออกเครื่องพิมพ์
  •       Ctrl + H – เปิดหน้า History เป็นหน้าต่างย่อย ทางด้านซ้ายของหน้าเว็บ
  •       Ctrl + S – เซฟหน้าเว็บปัจจุบัน
  •       Ctrl + T – เปิดแท็บใหม่
  •       Ctrl + W  - ปิดแท็บปัจจุบัน
  •       Ctrl + Tab – ไปยังแท็บๆ ต่อไปทางหน้าขวา
  •       Ctrl + Shift + Tab – กลับไปยังแท็บที่ผ่านมาทางด้านซ้าย
  •       Ctrl + 1-9 – ไปยังแท็บลำดับที่ตรงกับตัวเลข เช่น 5 ก็ไปที่แท็บที่ 5
  •       Ctrl + B – เปิด – ปิด Bookmarks เป็นหน้าต่างย่อยทางซ้าย
  •       Ctrl + I – เปิด – ปิด Bookmarks เป็นหน้าต่างย่อยทางซ้าย
  •       Ctrl + D – ทำ bookmark ของหน้าเว็บปัจจุบัน
  •       Ctrl + U – ดูโค้ดของหน้าเว็บ
  •       Ctrl + J – เปิดหน้าต่างแสดงการดาวน์โหลด
  •       Ctrl + Enter – เปิดลิงค์ที่อยู่บน Address bar บนแท็บใหม่
  •       Shift + Enter – เปิดลิงค์ที่อยู่บน Address bar บนหน้าต่างใหม่


  แหล่งที่มา : http://fws.cc/zoneitzeed/index.php

10 ข้อเท็จจริงที่น่าทึ่ง ของไมโครซอฟท์
















เบื้องลึกเบื้องหลังของบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุด ในโลกที่ล้วนแต่น่าขบขันและน่าสนใจ
ที่สำคัญคือคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

  • 1. ครั้งแรกของ “Microsoft”ชื่อ “Microsoft” นั้นถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ปี 1975 ในจดหมายที่ Bill Gates ส่งถึง Paul Allen ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โดยครั้งแรกนั้นจะเขียนเป็น “Micro-Soft” และอีกหนึ่งปีคือวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี 1976 เครื่องหมายการค้านี้ก็ถูกใช้เป็นชื่อบริษัทนับตั้งแ ต่นั้นมา
  • 2. เขตปลอด iPod และ Google ได้ชื่อว่าเป็นซีอีโอของไมโครซอฟท์ Steve Balmer จึงได้ปลูกฝังลูกๆ ของเขาให้ใช้แต่ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ โดยตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์กับสถานี CNN เขากล่าวว่า “ลูกๆ ของผมก็เหมือนเด็กทั่วๆ ไป ที่อาจจะไม่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำสำเร็จก็คือการล้างสมองพวกเขาไม่ ให้ใช้ Google และ iPod”
  • 3. เกมตัวเลข I  ปัจจุบันไมโครซอฟท์จ้างพนักงาน 95,828 คนทั่วโลก โดยพนักงานเหล่านั้นมีอายุเฉลี่ย 37 ปี ในจำนวนนี้เป็นผู้ชาย 74.7 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังครอบครองอสังหาริมทรัพย์ (ทั่วโลก) ทั้งหมด 88 แห่ง คิดเป็นพื้นที่รวม 1,121,739.83 ตารางเมตร
  • 4. เฉพาะ Mac เท่านั้น  โปรแกรม MS Office เวอร์ชันแรกเปิดตัวเมื่อปี 1989 โดยมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นฟลอบปี้ดิสก์และซีดีรอม และสามารถใช้กับระบบปฏิบัติการ “Mac OS” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนเวอร์ชันสำหรับวินโดว์สของ Word, Excel, PowerPoint นั้นตามออกมาในปี 1990 (Microsoft Office 3.0)
  • 5. พิเศษเฉพาะวินโดว์ส  เสียงเริ่มต้นของวินโดว์ส 95 นั้นถูกเรียบเรียงขึ้นเป็นพิเศษโดยนักแต่งเพลง Brian Eno และถูกบันทึกด้วยเครื่อง Apple Macintosh ส่วนเสียงที่ใช้ในวิสต้านั้นถูกเรียบเรียงโดย Robert Fripp อดีตมือกีต้าร์แห่งวง King Crimson
  • 6. เกมตัวเลข II   ในแต่ละวัน Microsoft Dining Service ซึ่งเป็นแผนกที่รับผิดชอบเรื่องการดูแลเรื่องอาหารกา รกินให้กับพนักงานในเรดมอนด์จะต้องเตรียมพิซซ่าไว้รอ งรับมากถึง 2,200 ชิ้น และในแต่ละปี พนักงานของไมโครซอฟท์จะบริโภคนม 4 ล้านกล่อง น้ำแร่ 7 ล้านขวด และชาผง 2 ล้านซอง
  • 7. กว่า 12,000 วัน กับไมโครซอฟท์   Bill Gates ทำงานกับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 1975 จนกระทั่งเกษียณตัวเองไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2008 ในบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งขึ้น ซึ่งคิดเป็นจำนวนวันทั้งหมด 12,139 วัน (รวมวันหยุดพิเศษและวันหยุดประจำสัปดาห์)
  • 8. ปู่ทวดของวินโดว์ส   ระบบปฏิบัติการตัวแรกของไมโครซอฟท์มีชื่อว่า “Xenix” โดยทายาทของ Unix ตัวนี้ถูกเปิดตัวสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 1980 โดย Bill Gates ต้องการที่จะผลักดันให้มันเป็นมาตรฐานของระบบปฏิบัติ การสำหรับพีซี แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะ Xenix จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดดิสก์และหน่วยความจำในการทำงานถึง 256KB ซึ่งในขณะนั้นเครื่องพีซีจะมีหน่วยความจำสูงสุดแค่ 64KB ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์ก็ยังมีราคาแพงมาก
  • 9. ปุ่ม Save ที่ผิดพลาด  เคยสังเกตไหมว่ามีอะไรผิดปกติกับไอคอน “Save” ในโปรแกรม Office เวอร์ชันก่อนหน้า 2003 ทั้งหมด ... คำตอบคือ ช่องอ่านแผ่นบนแผ่นเหล็กที่เลื่อนไป-มาได้ถูกวางไว้สลับด้านกัน
  • 10. 16 พันล้านชุดข้อมูลบน Excel  ตารางทำงานของ Excel 2007 รองรับข้อมูลได้ถึง 16,000 คอลัมน์ กับอีก 1 ล้านแถว หรือคิดเป็นจำนวนมากถึง 16,000,000,000 ชุดข้อมูลในหนึ่งตารางเลยทีเดียว

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

วิธีเช็คว่า คอมของคุณถูกเปิดใช้ตอนกี่โมงบ้าง

หลายๆคนที่อยู่หอกับเพื่อน คงมีความรู้สึกอยู่ ว่าใครเเอบมาเล่น msn เรารึป่าวหรือ มานั้งทำไรเครื่องเรารึป่าวผมจะมาสอนวิธี เช็คกันว่ามีคนเเอบเล่นเครื่องเรารึป่าวเป็นเคล็ดลับที่มีมานานแล้วหละ ผมเพิ่งรู้เห็นในเว็บเลยมาโพสบอกกัน ใครรู้แล้วก็ขออภัยครับคุณ สามารถที่จะเช็คได้โดยง่ายเลยครับ ว่า COMPUTER ของคุณได้ถูกเปิดตอนกี่โมงบ้าง(มีคนมาเปิดเครื่องคุณ ตอนที่ไม่อยู่อะเปล่า) โดยมีวิธีง่ายๆดังนี้ครับ

1. คลิ๊ก MOUSE ขวาที่ ICON MY COMPUTER แล้วเลือก Manage ครับ


2. จะมีหน้าต่างแบบด้านล่างขึ้นมาครับ


3. แล้วใช้ MOUSE เลือกไปที่ Event Viewer ---> Systemแล้วจะมีข้อมูลเวลาที่เปิด COMPUTER ขึ้นมา


เพียงแค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ

http://tipcomtrick.blogspot.com/

30 ทริคเล็กน้อยเกี่ยวกับคอมพ์



1. ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้คุณกด Shift ค้างไว้ จะทำให้คุณ Restart ได้เร็วขึ้น
2. ในบาง Web Site หากคุณกด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น
3. หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ
4. คุณสามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:windows ของคุณ
5. ในระหว่างที่คุณกำหลังใช้งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย
6. การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของคุณนั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop
7. ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้
8. คุณสามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก
9. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้
10. ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว




11. คุณสามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start -> Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter
12. ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar
13. ใน Windows คุณไม่สามารถ สร้าง Folder ที่ชื่อ "con" ได้
14. ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยคุณในการพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น
15. การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้คุณไม่พลาด Startup Menu
16. คุณสามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar > Properties > เอาเครื่องหมาย Show Clock ออก
17. หากคุณกด F11 ใน Windows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น
18. ใน ICQ การส่ง Message หากคุณกด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send
19. คุณสามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้
20. การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ ปัจจุบัน



21. การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา
22. เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break
23. การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ
24. การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter
25. การลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete
26. การกด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา
27. การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start -> Shut Down... -> Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้
28. ในระหว่างใช้ Browser คุณสามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้าขึ้นได้
29. กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ
30. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ HardWare